ระวังหนอนเจาะผลทุเรียน ป้องกันก่อนเสียหาย ด้วยแลมบ์ดาไซฮาโลทริน ตัวยาสูตรพิเศษ เกรดความบริสุทธิ์สูงสุด
แลมบ์ดาไซฮาโลทริน คืออะไร? ยาเย็นกำจัดหนอนเจาะผลทุเรียน
แลมบ์ดาไซฮาโลทริน (Lambda-cyhalothrin) กลุ่ม 3A เป็นสารกำจัดแมลงที่เกษตรกรไทยเลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในการป้องกันและกำจัด หนอนเจาะผลทุเรียน เป็นแมลงศัตรูตัวสำคัญของทุเรียนที่สามารถทำลายผลผลิตอย่างรุนแรง
สารสำคัญนี้มีคุณสมบัติเด่นคือ ซึมทั่วต้น ออกฤทธิ์ เร็ว แรง คุมนาน 14 วัน ทำให้สามารถควบคุมการระบาดของหนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็น ยาเย็น ปลอดภัยต่อพืช จึงสามารถใช้งานได้ในช่วงที่พืชกำลังออกดอกและติดผลโดยไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช
การทำงานของ แลมบ์ดาไซฮาโลทริน มีลักษณะ ถูกตัวตาย และกินตาย สามารถกำจัดหนอนได้ดีเยี่ยม ทั้งหนอนที่สัมผัสกับสารโดยตรงและหนอนที่กินส่วนพืชที่มีสารตกค้าง
หนอนเจาะผลทุเรียน ศัตรูพืชที่ต้องเฝ้าระวัง
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียนเกิดจากผีเสื้อกลางคืนวางไข่เป็นฟองเดี่ยวบนผลทุเรียนในขณะที่ผลยังอ่อน จากนั้นตัวหนอนที่ฟักออกจะเจาะเข้าไปกัดกินเมล็ดภายในผล การทำลายของหนอนชนิดนี้จะสังเกตได้จากรอยเจาะบนผิวผลทุเรียน ซึ่งอาจมีขี้หนอนหลุดออกมาด้วย
เมื่อหนอนเจาะเข้าไปในผลแล้ว จะกัดกินเนื้อทุเรียนและเมล็ด ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ผลทุเรียนที่ถูกหนอนทำลายจะมีกลิ่นเหม็นเน่า เนื้อเป็นสีดำ และไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้อย่างมหาศาล
ข้อเด่นของแลมบ์ดาไซฮาโลทริน
ซึมทั่วต้น ออกฤทธิ์ เร็ว แรง คุมนาน 14 วัน
แลมบ์ดาไซฮาโลทริน มีความพิเศษที่สามารถ ซึมทั่วต้น ผ่านเข้าไปในระบบลำเลียงของพืช ทำให้สามารถป้องกันหนอนได้แม้ในส่วนที่ยาไม่ได้สัมผัสโดยตรง การ ออกฤทธิ์ เร็ว แรง ทำให้เห็นผลได้ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีดพ่น
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือความสามารถ คุมนาน 14 วัน ซึ่งยาวนานกว่ายาฆ่าแมลงทั่วไปที่มักมีผลเพียง 7-10 วัน ทำให้เกษตรกรประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความถี่ในการฉีดพ่น
ถูกตัวตาย และกินตาย สามารถกำจัดหนอนได้ดี
กลไกการทำงานของ แลมบ์ดาไซฮาโลทริน มี 2 รูปแบบหลัก คือ ถูกตัวตาย เมื่อแมลงสัมผัสกับสารโดยตรง และ กินตาย เมื่อแมลงกินส่วนพืชที่มีสารตกค้าง ทำให้ สามารถกำจัดหนอนได้ดีเยี่ยม ทั้งหนอนที่อยู่บนใบและหนอนที่ซ่อนตัวในส่วนต่างๆ ของต้นไม้
การทำงานแบบ dual action นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนอย่างสมบูรณ์ ลดโอกาสในการกลับมาระบาดใหม่
ครอบคลุมหนอนศัตรูพืชหลากหลายชนิด
แลมบ์ดา-ไซฮาโลทรินสามารถกำจัดหนอนได้ดี กลุ่มแมลงที่สามารถกำจัดได้ เช่น เพลี้ยไฟ แมลงหร่า หนอนแดง เพลี้ยจักจั่น หนอนกอสีครีม หนอนห่อใบข้าว หนอนกัดใบข้าว หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม หนอนประกบใบ หนอนเจาะสมอฝ้าย แมลงสิง ไอ้ฮวบ ด้วงงวง
นอกจาก หนอนเจาะผล หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม หนอนชอนใบ หนอนดื้อยาทุกชนิด แล้ว ยังสามารถกำจัดแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ได้อีกมากมาย ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้ยาหลายชนิด ประหยัดต้นทุนและลดความซับซ้อน
ยาเย็น ปลอดภัยต่อพืช ข้อสำคัญของแลมบ์ดาไซฮาโลทริน
ยาเย็น หมายถึงสารเคมีเกษตรที่มีความปลอดภัยสูงต่อพืช สามารถใช้ได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการเผาไหม้หรือความเสียหายต่อใบ ดอก และผลของพืช ต่างจาก "ยาร้อน" ที่อาจทำให้เกิดอาการเผาไหม้ใบหรือดอกร่วงได้
แลมบ์ดาไซฮาโลทริน จัดอยู่ในกลุ่ม ยาเย็น ปลอดภัยต่อพืช จึงสามารถใช้ได้ในทุกช่วงการเจริญเติบโตของพืช รวมถึงช่วงที่พืชกำลังออกดอกและติดผล ซึ่งเป็นช่วงที่พืชมีความอ่อนไหวมากที่สุด
ใช้ได้ในช่วงออกดอกและติดผล
ความปลอดภัยของ แลมบ์ดาไซฮาโลทริน ต่อพืชทำให้สามารถฉีดพ่นได้แม้ในช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอกและติดผล โดยไม่กระทบต่อการผสมเกสรหรือการพัฒนาของผล ซึ่งเป็นข้อดีสำคัญเมื่อเทียบกับยาฆ่าแมลงบางชนิดที่อาจทำให้ดอกร่วงหรือผลไม่ติด
การใช้งานในช่วงนี้จึงช่วยป้องกัน หนอนเจาะผลทุเรียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิต
อัตราการใช้ที่แนะนำ
- การใช้งานที่ได้ผลดีที่สุด ควรใช้ในอัตรา 200 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร หรือประมาณ 1 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร สำหรับการป้องกัน
- ขนาด 1 ลิตร ผสมน้ำได้ 1,000 ลิตร
- ฉีดซ้ำทุก 7-10 วัน
- ฉีดพ่นในช่วงเช้าตรู่ (6.00-9.00 น.) หรือช่วงเย็น (16.00-18.00 น.)
ข้อควรระวังและความปลอดภัยในการใช้งาน
แม้ว่า แลมบ์ดาไซฮาโลทริน จะเป็น ยาเย็น ปลอดภัยต่อพืช แต่ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันครบชุด
- หน้ากากป้องกันสารเคมี
- แว่นตากันสารเคมี
- เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
- ถุงมือยางหรือไนไตร
- รองเท้าบูทกันน้ำ
- หมวกกันน็อค (ถ้าทำงานใต้ต้นไม้สูง)
วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง
- อ่านฉลากและคำแนะนำ ก่อนการใช้งานทุกครั้ง
- ผสมยาตามอัตราที่แนะนำ ไม่ใช้มากหรือน้อยเกินไป
- ฉีดพ่นเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม หลีกเลี่ยงลมแรงและฝนตก
- หลีกเลี่ยงการสูดดมไอยา โดยตรง
- ล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังการใช้งาน
การเก็บรักษาที่ถูกต้อง
- เก็บในภาชนะเดิม มีฉลากชัดเจน
- วางในที่แห้ง เย็น ห่างจากแสงแดดและความร้อน
- ห่างจากเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหารและยา
- ไม่เก็บร่วมกับปุ๋ย หอมหัวหรือสารเคมีอื่น
- ใช้ให้หมดภายใน 2-3 ปีหลังเปิดใช้
ใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นได้หรือไม่
สามารถใช้ร่วมกับยาฆ่าแมลงกลุ่มอื่นได้ แต่ควรทดสอบความเข้ากันได้ก่อน และไม่ควรผสมกับยาที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง เพื่อป้องกันการสลายตัวของสารสำคัญ